ตะกร้อเป็นกีฬาที่เล่นกันเป็นทีมโดย แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 3 คน โดยใช้ลูกตะกร้อ เตะข้ามตาข่ายกันไปมาในการแข่งขันกัน โดยมีการบรรจุกีฬาตะกร้อเอาไว้ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ทั้งซีเกมส์ และเอเชี่ยนเกมส์ อีกด้วย โดยแข่งกันแบบทีม และแบบที่เรียกว่าตะกร้อรอดห่วง
นอกจากใช้ในการแข่งขันแล้วลูกตะกร้อ ก็สามารถนำมาออกกำลังกายอย่างอื่นได้ เช่น จะเอามาเดาะเล่นคนเดียวก็ได้ หรือเดาะส่งกันไปมากับเพื่อน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป หรือ การเล่นที่นิยมกันเป็นกลุ่มก็คือ ทำการล้อมวงกันเป็นวงกลม เดาะส่งกันไปมาด้วยเท้า ห้ามใช้มือ ซึ่งใครทำลูกตะกร้อตกพื้น ก็จะต้องออกจากวงไป ใครอยู่เป็นคนสุดท้าย ก็จะกลายเป็นผู้ชนะไป ซึ่งเป็นการออกกำลังกาย ที่สนุกกันแบบเป็นหมู่คณะ และเป็นการสร้างมิตรภาพได้อีกทาง
ลูกตะกร้อมีลักษณะอย่างไร
ลูกตะกร้อจะมีลักษณะเป็นทรงกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ ประมาณ 42 – 45 ซม มีรูบนลูกตะกร้อ ทั้งหมด 12 รูไม่ขาดไม่เกิน ในสมัยก่อน ลูกตะกร้อ จะทำมาจากหวาย แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จึงได้เปลี่ยนมาเป็นการผลิตด้วยใยสังเคราะห์ แทน และอาจจะมีการเคลือบสาร เพื่อทำให้ลูกตะกร้อนุ่มขึ้นอีกด้วย
ราคาลูกตะกร้อ
ลูกตะกร้อนั้นก็จะมีราคาตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อย และลูกตะกร้อสำหรับการแข่งขันนั้น ก็จะมีราคาประอยู่ที่ 700-800 บาท เรียกได้ว่าราคาไม่ถือว่าแพง เหมาะสำหรับการซื้อมาติดบ้านไว้ออกกำลังกายเป็นอย่างมาก โดยที่หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์กีฬา ในห้างหรือในร้านอุปกรณ์เกี่ยวกับการเรียนก็มีขาย เรียกได้ว่าสามารถหาซื้อได้ไม่ยากเลยสำหรับลูกตะกร้อนี้
ขอบคุณรูปภาพจาก www.dd-pra.com
ความนิยมของลูกตะกร้อ
สำหรับบ้านเราต้องบอกเลยว่ากีฬาตะกร้อมีเป็นที่นิยมอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นอันดับรอง ๆ ลงมาจากกีฬาฟุตบอลเลย เพราะในการแข่งขันกีฬาระดับเอเชีย และระดับอาเซียน นักตะกร้อทีมชาติไทยของเราเรียกได้ว่า ครองเจ้าเหรียญมาทองทุกยุคทุกสมัย โดยที่คู่แข่งที่สำคัญก็คือ มาเลเซีย
จึงทำให้ในโรงเรียนต่าง ๆ จะมีการสนับสนุนการเล่นตะกร้อกันแทบทุกโรงเรียน โดยมีการสร้างสนามเอาไว้ให้นักเรียนได้ใช้ และมีลูกตะกร้อไว้ให้นักเรียนได้นำมาเตะกัน หลาย ๆ คนก็สามารถก้าวขึ้นไปติดทีมชาติ คว้าเหรียญทอง และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ โดยส่วนใหญ่จะเป็นนักกีฬาจากต่างจังหวัด
เด็กบางคนที่บ้านยากจนสำหรับการได้รับลูกตะกร้อมาซักลูกเป็นของขวัญ อาจจะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดการเลยก็เป็นได้