หลังจากที่ รูเบน ดิอาส ปราการหลังป้ายแดงของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี ยอดทีมแห่ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ชูเสื้อเบอร์ 3 ให้กับทีมต้นสังกัดใหม่ ที่เขาจะใส่ในถิ่น เอติฮัด สเตเดียม และบทสัมภาษณ์หลังจากที่ ดิอาส ได้จรดปากกาลงในสัญญา
โดยที่เขาได้บอกกล่าวกับสื่อเมืองผู้ดีว่า จากประสบการณ์ของเขาที่สั่งสมมา ตัวเขาเองมีความเชื่อได้ว่า จะสามารถสร้างผลงานให้กับทีม “ เรือใบสีฟ้า ” ให้ประสบความสำเร็จได้แน่นอน
ดิอาส เป็นปราการหลังป้ายแดงที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่ของ เรือใบสีฟ้า คว้ามาร่วมทีมตรงตามจุดประสงค์ของเขา เนื่องจากว่า ทีมของ เป๊ป ในฤดูกาลที่ผ่านมา มีรอยรั่วเป็นอย่างมากถึงแม้ว่า เป๊ป จะดัน แฟร์นันดินโญ ลงไปช่วยในเกมรับ
และทำงานได้ดีก็ตาม แต่นั่นก็ยังไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกจุด และสำหรับในฤดูกาลนี้ ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลที่ผ่านมา ทีมของ เป๊ป ก็บ่งบอกให้เห็นแล้วว่า หลังบ้านของเขามีปัญหาอย่างจริง ๆ ด้วยสาเหตุนี้ การมาของ ดิอาส จึงเป็นการแก้ไขปัญหาที่ถูกที่สุดของ เป๊ป
ในฤดูกาลนี้ กับแมตช์การแข่งขันที่เหลือของ พรีเมียร์ลีก และรายการใหญ่ในเวทียุโรป เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้หลังบ้านเสียประตูง่ายดายเหมือนที่ผ่านมา
ดิอาส ได้กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า “ ผมเข้าใจดีว่า การที่ผมเป็นตัวหลักให้กับ เบนฟิกา ที่ผ่านมาจะเทียบชั้นกับเหล่าบรรดากองหลังที่อยู่ใน พรีเมียร์ลีก ให้เท่าเทียมกันก็ไม่ได้ เนื่องจากว่าเป็นคนละระดับกัน แต่การมาของผมครั้งนี้ ผมจะใช้ประสบการณ์ของผมทั้งหมดที่มี เข้ามาช่วยทีมให้ได้เยอะที่สุด และผมเชื่อได้ว่า รูปแบบสไตล์การเล่นของผม น่าจะเหมาะสมกับบอลที่หนักดิบเถื่อนแบบ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ”
การย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็นการสลับขั้วกับ นิโคลัส โอตาเมนดี กองหลังทีมชาติอาร์เจนตินาที่ไปอยู่กับ เบนฟิกา แทนด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร (562.5 ล้านบาท) ทำให้ รูเบน ดิอาส กลายเป็นสมาชิกคนที่ 3 ของ “เรือใบสีฟ้า” ในช่วงซัมเมอร์นี้ต่อจาก เฟร์ราน ตอร์เรส กับ นาธาน อาเก
ด้านแนวรับวัย 23 ปี เผยความรู้สึกหลังย้ายมาเล่นในถิ่นเอติฮัด สเตเดียม ว่า “การย้ายมาอยู่กับสโมสรอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมที่ผมไม่อาจปฏิเสธได้ ซึ่งความสำเร็จของสโมสรก็บ่งบอกชัดเจนอยู่แล้ว พวกเขาครองความยิ่งใหญ่บนเกาะอังกฤษในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังมีฟุตบอลเกมรุกเป็นเครื่องหมายการค้าอีกด้วย ซึ่งผมรู้สึกว่าเข้ากับแนวทางการเล่นของผม”
#kao-sport #รูเบน ดิอาส #แมนเชสเตอร์ ซิตี #ฟุตบอล
ขอขอบคุณภาพจาก
- siamsport.co.th