ทำความรู้จักสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน

ทำความรู้จักสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน

สำหรับกีฬาฟุตบอลในปัจจุบันไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิงไม่จำกัดวัย ในสนามการแข่งขันแย่งชิงการเป็นเจ้าพรีเมียร์ลีกนั้น สโมสรฟุตบอลที่ได้รับความสนใจจากคอบอลไม่น้อยเลย คือ สโมสรเอฟเวอร์ตัน

ในการแข่งขันล่าสุด ลงสนามคู่กับสโมสรแมนยูและสามารถตีเสมอได้ 3-3 ประตูสร้างความชื่นชอบให้กับคอบอลได้อย่างล้นหลาม นอกจากนี้สโมสรยังได้รับการจัดอันดับ 6 ในพรีเมียร์ลีกอีกด้วย ซึ่งกว่าสโมสรดังกล่าวจะได้เป็นที่ยอมรับมากถึงปัจจุบัน อดีตเคยผ่านเรื่องราวมามากมาย

โดยสโมสรฟุตบอลดังกล่าวมีชื่อในภาษาอังกฤษว่า

Everton Football Club ที่มีชื่อเดิมว่า สโมสรฟุตบอลเซนต์โดมิงโก เป็นสโมสรฟุตบอลเก่าแก่ของประเทศอังกฤษ ด้วยความที่เป็นคู่ปรับกับสโมสรลิเวอร์พูล แฟนบอลจึงให้ฉายาว่าทอฟฟีสีน้ำเงิน ซึ่งสโมสรมีการก่อตั้งในปี 1878 ถ้านับความเก่าแก่ก็นับได้ 143 ปีแล้ว

ผลงานที่เป็นที่ยอมรับของแฟนฟุตบอลเลย คือ การคว้าแชมป์ครั้งแรกในปี 1891

 เอกลักษณ์ของทีม คือ การแต่งกายในอดีต ชุดในการลงสนามของสโมสรเอฟเวอร์ตันจะเป็นกางเกงสีน้ำเงิน เสื้อสีชมพูอ่อน ถุงเท้ามีสีฟ้า ต่อมาเมื่อเป็นที่รู้จักมาขึ้น หลายคนจึงเรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนชุดลงสนามเป็นทางการและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นสมฉายา คือ ใส่เสื้อสีน้ำเงินมีสัญลักษณ์ของทีม กางเกงและถุงเท้าเป็นสีขาวจนถึงปัจจุบัน

 และอีกหนึ่งผลงานที่ทำให้แฟนบอลไม่สามารถลืมได้ คือ

หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สโมสรเอฟเวอร์ตันได้สร้างสถิติการทำประตูมากถึง 60 ประตูในฤดูกาลเดียวแถมยังเป็นการสร้างสถิติทำประตูมากสุดในประเทศอังกฤษอีกด้วย ซึ่งผู้ที่ทำประตูได้ คือ ดิ๊กซี่ ดีน กองหน้าของสโมสร ต่อมาสโมสรก็มีการเปลี่ยนแปลงประธานไปเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบันผู้ที่นั่งในตำแหน่งของประธานสโมสร คือ บิลล์ เคนไรต์ และมีผู้จัดการทีมที่เก่งกาจอย่างการ์โล อันเชลอตตีร่วมกันพัฒนาทีมกับนักเตะจนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

            สำหรับเอฟเวอร์ตันแล้วเป็นทีมฟุตบอลที่น่าติดตาม เพราะทั้งลีลาการเล่น การวางแผนในการแข่งขัน ความเก่งของทีมนักกีฬาและโค้ชก็เป็นที่ถูกตาถูกใจไม่ใช่น้อยเลย และยิ่งเมื่อตีเสมอกับแมนยูก็ยิ่งสร้างเซอร์ไพรส์กับคนดูเป็นอย่างมาก และตั้งแต่รอวันดวลกับแมนยูอีกครั้งอย่างแน่นอน

#kao-sport #เอฟเวอร์ตัน #พรีเมียร์ลีก #กีฬาฟุตบอล

ขอขอบคุณภาพจาก

  • www.upload.wikimedia.org
  • www.pirun.ku.ac.th
Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on reddit
Reddit