รำมวยไทย อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ร่ายรำก่อนการต่อสู้

จากลักษณะทางวัฒนธรรมและประเพณีของมวยไทย จึงทำให้การต่อสู้ชนิดนี้แตกต่างจากศิลปะการต่อสู้อื่น ๆ ในโลก ปัจจุบัน ประเพณีของชาวไทยในสมัยโบราณนั้นได้รับการยกย่อง ในเรื่องของการให้เกียรติความเคารพที่มีต่อศาสนา และความเชื่อทางจิตวิญญาณ ซึ่งแสดงผ่านการรำมวยไทยก่อนการขึ้นชกทุกครั้ง

การไหว้ครูมวยไทยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน

ลำดับที่ 1
โดยลำดับแรกนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และมีต้นกำเนิดมาจามวยไทยโบราญ นักมวยจะเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ บริเวณมุมทั้ง 4 ของสังเวียน พร้อมทั้งนำมือขวาแตะเชือกและจะหยุดอธิษฐานในแต่ละมุมเพื่อผนึกไม่ให้มีความรู้สึกเชิงลบ หรือโชคร้ายเข้ามาก่อนการต่อสู้ นักมวยจะเคลื่อนที่ไปที่บริเวณกึ่งกลางของวงแหวน และคุกเข่าลงทั้ง 2 ข้างพร้อมทั้งแตะศีรษะของเขาลงกับพื้น 3 ครั้งด้วยการโค้งคำนับ
ลำดับที่ 2
คือการคุกเข่า ด้วยการใช้เข่าข้างหนึ่งวางบนพื้น และขาอีกข้างเหยียดออกไปด้านหน้า นักมวยจะหันหน้าไปทั้ง 4 ทิศทางของวงแหวนด้วยการหมุนเข่าไปเรื่อย ๆ
ลำดับที่ 3
ซึ่งเป็นลำดับสุดท้าย นักมวยจะเริ่มต้นจากบริเวณกึ่งกลางของวงแหวน พร้อมทั้งแสดงท่าทางเต้นรำออกไปด้านนอก มีรูปแบบการเต้นรำที่แตกต่างกันหลายรูปแบบ นักมวยจะได้สักการะเทพต่าง ๆ เช่น หนุมาน, พญาอินทรี, หงส์, พระรามยิงธนู เป็นต้น

การประยุกต์ใช้นาฏศิลป์ในมวยไทย

นอกเหนือไปจากการแสดงจิตวิญญาณ และการแสดงความเคารพในแบบไทยแล้ว การไหว้ครูยังช่วยให้นักสู้รวบรวมสมาธิของพวกเขาก่อนการต่อสู้จะเริ่มขึ้นอีกด้วย ส่วนการทำท่าคุกเข่าหรือท่าทางร่ายรำต่าง ๆ ก็เปรียบเสมือนการยืดเหยียดร่างกายก่อนแข่งขัน ทำให้การไหว้ครูก่อนการขึ้นชกนี้มีจุดประสงค์ 2 ประการ ได้แก่ การเตรียมนักสู้ให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งทำให้จิตวิญญาณสงบก่อนการต่อสู้จะเริ่มต้นขึ้น

และท่าทางสุดท้ายที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือ ท่าย่าง 3 ขุมหรือการก้าวย่าง 3 ก้าว เป็นท่าทางที่มีการใช้งานจริงมากที่สุด เนื่องจากเป็นฟุตเวิร์คประจำตัวของมวยไทยรวมถึงการยกขา ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ใช้ในการสกัดกั้นการเตะด้วยหน้าแข้งของนักมวย ดังนั้นแล้วการขึ้นชกมวยครั้งหนึ่งจึงเป็นมากกว่าการสู้เพื่อรู้แพ้รู้ชนะ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของศิลปะวัฒนธรรมไทยอีกด้วย

#kao-sport #รำมวยไทย #เอกลักษณ์ของความเป็นไทย #ความเชื่อทางจิตวิญญาณ

ขอขอบคุณภาพจาก