เราคงจะได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่า สำหรับยอดทีมในเวทียุโรป ที่พวกเขาเลือกซื้อนักเตะอายุเยอะแต่มากประสบการณ์เข้ามาเสริมทีม นั่นก็เพราะว่า ต้องการที่จะให้มาถ่ายทอดประสบการณ์แก่ดาวรุ่งภายในทีม หรือแม้กระทั่งใช้ตัวผู้เล่นที่อายุเยอะ ลงไปในสนามเพื่อประคับประคองเกมให้ยืนได้ระยะยาว
แต่สำหรับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่ เรือใบสีฟ้า เขาไม่ได้มอง แฟร์นานดินโญ มิดฟิลด์ห้องเครื่อง นักเตะสัญชาติบราซิลวัย 35 ปี เป็นผู้ถ่ายทอดประสบการณ์ให้รุ่นน้องภายในทีมเท่านั้น แต่ เป๊ป ยังใช้บริการ แฟร์นันดินโญ ในฐานะผู้เล่นตัวหลักให้กับทีม
สำหรับฤดูกาลที่แล้ว แฟร์นันดินโญ คือคีย์แมนตัวพลิกเกม ที่เข้าไปแก้ไขปัญหาในแผงหลังให้กับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้เป็นอย่างดี หลังจากที่ ลาปอร์ต กองหลังตัวหลักของทีม ได้รับอาการบาดเจ็บ และ เป๊ป ได้จับให้ แฟร์นานดินโญ ลงไปเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คแทน
ซึ่งโดยตำแหน่งเดิม แฟร์นานดินโญ เล่นในตำแหน่งกลางตัวรับ แต่ แฟร์นานดินโญ ยังสามารถประคับประคองทีมให้จบอันดับ 2 ของ พรีเมียร์ลีก ได้ในฤดูกาลที่แล้ว
หากจะมองถึงศักยภาพของ แฟร์นานดินโญ ว่า เขาเป็นกุญแจสำคัญของทัพ เรือใบสีฟ้า ได้มากขนาดไหน ให้ย้อนกลับไปดูเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี ถูก เลสเตอร์ ซิตี ถลุงไป 5 ลูก จุดเปลี่ยนสำคัญ นั่นก็คือ ช่วงครึ่งหลัง เป๊ป กวาร์ดิโอลา เปลี่ยน แฟร์นันดินโญ ออกจากเกม
และในนัดนั้นก็เห็นได้ชัดว่า การเบรคผู้เล่นของ เลสเตอร์ ที่เข้ามาทำเกมรุก ผู้เล่นที่อยู่ในสนามของ แมนเชสเตอร์ ซิตี ไม่สามารถจัดการกองหน้าของทีมคู่แข่งได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งแตกต่างจากช่วงครึ่งแรกที่ แฟร์นันดินโญ คอยที่จะทำลายเกมรุกของคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา
แฟร์นาเข้ามาอยู่กับซิตี้ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2013 และเป็นกุญแจสำคัญในฤดูกาลแรกที่เอทิฮัด ด้วยการเล่น 46 เกม ยิงไป 5 ประตู ในปีที่ซิตี้คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก และถ้วยคัพ ปีต่อมาเขายังได้ลงเล่นในทุกเกมในรายการแชมป์เปี้ยน ลีก ในปีที่ซิตี้เข้าไปถึงรอบเซมิ ไฟน่อล เป็นครั้งแรก รวมทั้งยังได้คว้าถ้วยลีกคัพสมัยที่สองในปี 2016
สำหรับในฤดูกาลนี้ ซิตี้ออกตัวได้ยอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะ 16 เกม และเสมอ 1 จาก 17 นัดรวมทุกรายการ โดยแฟร์นาเป็นตัวจริง 15 นัด
#kao-sport #แฟร์นานดินโญ่ #เรือใบสีฟ้า #ฟุตบอล
ขอขอบคุณภาพจาก
- dailynews.co.th