ปิร์โลไม่ยกธงขาว เชื่อม้าลายไล่งูใหญ่ทัน

ปิร์โลไม่ยกธงขาว-เชื่อม้าลายไล่งูใหญ่ทัน

อันเดรีย ปิร์โล กุนซือคนดังของ “ม้าลาย” ยูเวนตุส ยอดทีมเบอร์หนึ่งของประเทศอิตาลี ยังไม่ยอมแพ้ แม้ตอนนี้จะมีคะแนนตามหลัง อินเตอร์ มิลาน ทีมจ่าฝูงถึง 7 คะแนน

ยูเวนตุส ลงสนามในกัลโช ซีเรียอา นัดที่ 24 เป็นฝ่ายเอาชนะ สเปเซีย 3-0 โดยได้ประตูจากการยิงของ อัลบาโร โมราต้า

ดาวเตะทีมชาติสเปน เฟดเดริโก้ เคียซ่า แนวรุกทีมชาติอิตาลี และปิดท้ายด้วยการยิงของ คริสเตียโน โรนัลโด้ ซึ่งทั้งสามลูกเกิดขึ้นใน 45 นาทีหลัง ส่งให้ตอนนี้ทัพม้าลาย เก็บเพิ่มเป็น 49 คะแนน ไล่หลังจ่าฝูง อินเตอร์ มิลาน ที่มี 56 คะแนน อยู่ 7 แต้ม

ซึ่งทาง อันเดรีย ปิร์โล ได้กล่าวว่า

“เราตั้งเกมได้ช้าในเกมนี้ เพราะเรามีอาการอ่อนล้า จากการที่ต้องลงเล่นติดต่อกันหลายนัด ด้วยผู้เล่นชุดเดิม เราพยายามคุมเกมเอาไว้ในมือ และเมื่อเราส่งดาวเตะคนสำคัญลงไปเป็นตัวพลิกเกม มันทำให้เราเด็ดขาดมากขึ้น และใช้โอกาสไม่เปลือง ทีมเรากับทัพงูใหญ่ มีศักยภาพที่ไม่แตกต่างกันมาก แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือคะแนนของทั้งสองทีมที่เป็นความต่าง แต่ระยะทางมันยังอีกยาวไกล ผมยังเชื่อมั่นว่าอีก 14 เกมที่เหลือ

ลูกทีมม้าลายของผมจะลดช่องว่างลงได้ ทัพงูใหญ่ชุดนี้เล่นด้วยกันมามากกว่า 2 ปี ส่วนทางฝั่งของเราพึ่งจะมาจูนกันในฤดูกาลนี้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด เป้าหมายของเราคือการคว้าแชมป์เมื่อจบฤดูกาล”

และในเกมนัดดังกล่าวที่ ยูเวนตุส ชนะ สเปเซีย 3-0 ถือเป็นการลงสนามในเกมลีก นัดที่ 600 ของ คริสเตียโน โรนัลโด้

นับตั้งแต่เขาค้าแข้งมา โดยแบ่งเป็นการลงสนามในลีกโปรตุเกสให้ สปอติ้ง ลิสบอน 27 นัด ลงสนามในพรีเมียร์ลีกให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 196 นัด ลงสนามในลาลีก้าให้ เรอัล มาดริด 292 นัด และล่าสุดลงสนามในกัลโช ซีเรียอาให้ ยูเวนตุส 85 นัด

เท่านั้นยังไม่พอ 1 ประตูในเกมดังกล่าว ส่งผลให้เขาซัดไป 20 ประตู

ในกัลโช ซีเรียอา ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวแต่เพียงผู้เดียว นำหน้า โรเมลู ลูคากู 2 ประตู และยังสร้างสถิติใหม่ขึ้นมาอีกอย่าง ด้วยการเป็นดาวเตะเพียงคนเดียว นับเฉพาะ 5 ลีกใหญ่ในยุโรป ที่สามารถยิงได้ 20 ประตู มากถึง 12 ฤดูกาลติดต่อกัน

และจากการลงสนาม 600 นัดนับเฉพาะเกมลีก ดาวเตะจอมสับ กดไปถึง 470 ประตู ถือเป็นค่าเฉลี่ย 0.78 ประตูต่อการลงสนาม 1 นัด หรือทุกๆ 114 นาที เขาจะยิงในลีกได้ 1 ประตู

#kao-sport #อันเดรีย ปิร์โล #ยูเวนตุส #กัลโช ซีเรียอา

ขอขอบคุณภาพจาก

  • www.thestandard.co
Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on reddit
Reddit